(ตอนที่ 2) ความเชื่อมโยงของเส้นทางสายไหมโบราณสู่ความรุ่งเรืองในสุวรรณภูมิ ประเทศจีน
(ตอนที่ 2) ความเชื่อมโยงของเส้นทางสายไหมโบราณสู่ความรุ่งเรืองในสุวรรณภูมิ ประเทศจีน
ความเชื่อมโยงของเส้นทางสายไหมโบราณในประเทศจีน (เมืองซีอาน ถึง เมืองตุนหวง)
บริเวณผามั่วเกาคู เมืองตุนหวง ก็เป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่มีหลักฐานทางศิลปะแบบพุทธสถานที่มีขนาดใหญ่สุดและคงสภาพเดิมไว้ได้อย่างสมบูรณ์ที่สุดในโลก โดยมีถ้ำพระพุทธรูปแกะสลักหินทั้งสิ้น 735 ถ้ำ เป็นโบราณสานที่สะท้อนถึงศิลปะประติมากรรมในช่วงเวลานับพันปี เริ่มตั้งแต่ปี ค.ศ. 366
ปัจจุบันถ้ำผามั่วเกาคูได้ลงทะเบียนเป็นมรดกโลกในการประชุมคณะกรรมการมรดกโลกสมัยสามัญครั้งที่ 11 เมื่อปี ค.ศ. 1987
ซึ่งในระหว่างเส้นทางการเดินทางจากเมืองฉางอัน หรือเมืองซีอานในปัจจุบัน ต้องผ่านเมืองสำคัญหลายเมือง ได้แก่ เมืองเทียนสุ่ย เมืองหลานโจว เมืองจางเย่ เมืองจิ๋วฉวน เมืองเจียยี่กวน และเมืองตุนหวง ซึ่งเป็นด่านสุดท้ายของประเทศจีนสมัยโบราณ โดยมีจุดพักและเส้นทางการเดินทางที่มีความสำคัญในหลากหลายที่ เช่น เมืองจางเย่ มีเส้นทางผ่านสำคัญคือ เขาสายรุ้งจางเย่ตันเซี๋ย ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีลักษณะภูมิประเทศที่เป็นเทือกเขา ทอดยาวจากตัวนออกไปตะวันตก ซึ่งเป็นเส้นทางเดินของคณะทูตจากจีนไปยังเมืองซินเจียงและยุโรป และเส้นทางเดินทัพในสมัยโบราณที่สำคัญอีกเส้นทางหนึ่ง
รวมทั้งสวนสาธารณะเมืองจิ๋วฉวน ที่เดิมเป็นจุดพักแรมของทั้งบรรดากองทัพในช่วงออกศึกสงคราม และเป็นจุดพักของคาราวานพ่อค้าที่ใช้เส้นทางนี้ในการติดต่อค้าขายระหว่างเมืองด้วยเช่นกัน โดยปัจจุบัน รัฐบาลจีนได้ปรับปรุงสถานที่ให้เป็นสวนสาธารณะ และยังคงสถานที่สำคัญอย่างสระบัวที่เป็นแหล่งน้ำที่สำคัญของเส้นทางนี้ในอดีตอีกด้วย และตลาดซาโจว ซึ่งเป็นตลาดเก่าโบราณ ที่เป็นแหล่งแลกเปลี่ยนสินค้าและการค้าขายตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันโดยมีสินค้าหลักได้แก่ ผ้าพันคอ ผ้าไหม งานหัตถกรรม และของฝากหลากหลายชนิด เครื่องเทศ พรม ซึ่งตลาดนี้ถือเป็นตลาดที่มีความคึกคักมากในสมัยก่อนสำหรับการค้าขาย
(ติดตามต่อในตอนที่ 3)