![](https://suvarnabhumi.gistda.or.th/wp-content/themes/suvarnabhumi/assets/images/storytelling/two/compass.png)
บทที่ 2
The expectation of the GISTDA
ความคาดหวัง
ที่มาและความสำคัญของ
“สุวรรณภูมิ”
สุวรรณภูมิ หรือ สุวัณณภูมิหมายถึง แผ่นดินแห่งทองคำที่ครอบคลุมดินแดน ตั้งแต่ส่วนที่อยู่เลยจากอินเดียมาจนจรดถึงจีน (Beyond India before China) เป็นพื้นที่ซึ่งปรากฏในเอกสารโบราณว่ามีมาตั้งแต่สมัยต้นพุทธกาล โดยมีผู้คน อพยพเข้ามาตั้งถิ่นฐานแล้วพัฒนาเป็นรัฐอิสระในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ดินแดนแห่งนี้มีความอุดมสมบูรณ์ เป็นแหล่งทรัพยากรธรรมชาติที่สำคัญและเป็น แหล่งใหญ่ของสินค้ามีค่าซึ่งเป็นที่ต้องการของพ่อค้าทั่วไป ได้แก่ ทองคำ เครื่องเทศ ไม้มีค่าอัญมณีและของป่า มีผู้เดินทางมาค้าขายและอยู่อาศัย ทั้งพ่อค้า นักปกครอง นักเผชิญโชค ด้วยลักษณะทำเลที่ตั้ง ทำให้พื้นที่นี้เป็นทั้งอู่อารยธรรม และสะพานเชื่อมการค้า การเดินทางระหว่างโลกตะวันออกและโลกตะวันตกมา ตั้งแต่สมัยโบราณจนถึงปัจจุบัน และยังคงความสำคัญในบทบาทนี้ต่อเนื่องไปใน อนาคต
![](https://suvarnabhumi.gistda.or.th/wp-content/themes/suvarnabhumi/assets/images/storytelling/two/line-1.png)
ความคาดหวัง
ในโอกาสแห่งการเฉลิมฉลองปีวัฒนธรรมอาเซียน 2562 บนพื้นฐานแห่ง ความมีเสถียรภาพ สันติภาพและความมีพลวัตรอันเป็นเป้าหมายหลักของ อาเซียนโครงการสุวรรณภูมิ: ภูมิอารยธรรมเชื่อมโยงโลก จะเป็นวิวัฒนาการของ การเชื่อมโยงอัตลักษณ์ และคุณค่าแห่งวัฒนธรรมร่วมของอาเซียนเพื่อให้เกิด พลวัตในการพัฒนาเชื่อมโยงประชากรอาเซียนไปพร้อมกับMega Trend ของ โลกและยุทธศาสตร์การฟื้นความสำเร็จในประวัติศาสตร์ของประเทศจีนใน โครงการความร่วมมือตามแนวเส้นทางสายไหมเพื่อเชื่อมโยงเศรษฐกิจโลก (Belt and Road Initiative) และก้าวไปสู่การเป็นประชาคมอาเซียน (ASEAN Community) ที่สมบูรณ์ที่ทุกคนมีความมั่นคงในความเป็นมนุษย์ เป็นสุขและมี อิสระที่จะเลือกใส่ความหมายให้กับตนเองได้
![](https://suvarnabhumi.gistda.or.th/wp-content/themes/suvarnabhumi/assets/images/storytelling/two/line-2.png)
การศึกษาค้นคว้าเกี่ยวกับสุวรรณภูมิ
หลักฐานทางโบราณคดีที่พบใหม่
![](https://suvarnabhumi.gistda.or.th/wp-content/themes/suvarnabhumi/assets/images/storytelling/two/pic-4-1.png)
การศึกษาเกี่ยวกับสุวรรณภูมิได้เริ่มมา ตั้งแต่ประมาณ 160 ปีมาแล้วมีการกล่าวถึง สุวรรณภูมิอยู่มากมายในเอกสารของอินเดีย ในฐานะดินแดนที่พ่อค้าชาวอินเดียเดินเรือ มาค้าขายเป็นประจำ โดยการกล่าวอ้างถึง สุวรรณภูมิเป็นครั้งแรกปรากฏในเอกสาร ทางพุทธศาสนา ชื่อ มหานิเทศมีอายุราว 250 ปีก่อนคริสตศักราชโดยหมายถึง ดินแดน ที่อยู่ทางตะวันออกของอินเดีย
![](https://suvarnabhumi.gistda.or.th/wp-content/themes/suvarnabhumi/assets/images/storytelling/two/line-3.png)
เหรียญทองคำโรมัน
การพบเหรียญทองคำโรมันที่บางกล้วยในจังหวัดระนอง ซึ่งเป็นเหรียญที่ผลิตขึ้นในโรมเมื่อ พ.ศ.629 การศึกษาแก้วโรมันที่พบในหลายพื้นที่ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้พบหลักฐานที่บ่งชี้ว่าบริเวณปลายใต้สุดของ เมียนมาถึงชายฝั่งตะวันตกของคอคอดกระที่ภูเขาทอง และบางกล้วยในไทย อาจเป็นศูนย์กลางของสุวรรณภูมิ ในพุทธศตวรรษที่ 7 ก่อนที่จะมีการย้ายไปที่บางโร-นางย่อนในช่วงพุทธศตวรรษที่ 10-12
![](https://suvarnabhumi.gistda.or.th/wp-content/themes/suvarnabhumi/assets/images/storytelling/two/line-4.png)
ต่างหูทองคำสมัยศุงคะ
การค้นพบต่างหูทองคำสมัยศุงคะที่ชายฝั่งตะวันตกเฉียงใต้ของเมียนมาและวงแหวนสมัยโมริยะ-ศุงคะ ที่เขาสามแก้ว เป็นหลักฐานสำคัญแสดงถึงความศรัทธาต่อวัฒนธรรมอินเดียที่พบในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ในช่วงพุทธศตวรรษที่ 3-5 และแสดงถึงเครือข่ายการค้าขายทางไกลเมื่อ 2,000 ปีที่แล้ว
![](https://suvarnabhumi.gistda.or.th/wp-content/themes/suvarnabhumi/assets/images/storytelling/two/line-5.png)
การวิเคราะห์คุณค่ากับสถานการณ์ปัจจุบัน
แนวทางผลักดันสุวรรณภูมิ
สู่วัฒนธรรมร่วมแห่งอาเซียนในศตวรรษที่ 21
ยุทธศาสตร์การสร้าง “สุวรรณภูมิ” แผ่นดินในเชิงนามธรรมแห่งความคิดที่มีความอุดมสมบูรณ์ร่ำรวยด้วยทองคำ ทรัพยากรธรรมชาติและฐานรากวัฒนธรรมที่สำคัญ ซึ่งปรากฏชื่ออยู่ในจารึก เอกสารและแผนที่โบราณมากว่า 3,000 ปี สู่การเป็น “วิถีแห่งอาเซียน” ในครั้งนี้ เป็นการวิเคราะห์โลกเสมือนจริง (virtual world) บนความเป็นจริง (reality) ภายใต้ แนวโน้มใหญ่ของโลก (Mega Trend) เพื่อสร้างอัตลักษณ์แห่งวัฒนธรรมร่วมของอาเซียนทั้งในด้านประชากร เศรษฐกิจ สังคมและวัฒนธรรมสู่ความเป็นคุณค่าร่วม (shared value) ที่พร้อมต่อการเชื่อมโยงโลกในศตวรรษที่ 21 มีกรอบแนวคิด และขั้นตอน
![](https://suvarnabhumi.gistda.or.th/wp-content/themes/suvarnabhumi/assets/images/storytelling/two/line-7.png)
ความท้าทายของ “สุวรรณภูมิ” ในกระแสแรงโน้มถ่วง
ทางเศรษฐกิจวัฒนธรรมโลก ค.ศ. 2050
ปัจจัยสำคัญในการสร้าง “วัฒนธรรมร่วม” บนพื้นฐานของการชื่นชมคุณค่าของวัฒนธรรมพื้นถิ่นและวิถีการหลอมรวมเพื่อเชื่อมโยงจากแก่นล่างไปสู่ระดับภูมิภาค (Local to Regional) และระดับโลก (Global) คือ ความสามารถในการคาดการณ์สถานการณ์ด้านต่างๆ ของโลก (The World Foresight) เช่น การเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศของโลก ภาพรวมของประชากร สถานการณ์ทางเศรษฐกิจ ความก้าวหน้าทาง เทคโนโลยี รวมทั้งปัจจัยแรงดึงดูดและแรงเหวี่ยงด้านเศรษฐกิจวัฒนธรรมของโลก (The World Centripetal and Centrifugal Forces)
ข้อได้เปรียบของ “สุวรรณภูมิ” บนเครือข่ายเชื่อมโลก
ตำแหน่งที่ตั้งของ “สุวรรณภูมิ” ซึ่งขนาบด้วยสองมหาสมุทร คือ มหาสมุทรแปซิฟิกและมหาสมุทร อินเดียนั้น เป็นจุดผ่านของเส้นทางการค้าโลกมาตั้งแต่อดีตมาจนถึงปัจจุบัน ในบริบทการพัฒนาของโลกในศตวรรษที่ 21 ที่เทคโนโลยี รูปแบบการค้า การลงทุนและการเดินทาง มีการเปลี่ยนแปลงอย่างมหาศาล ทำให้สุวรรณภูมิซึ่งตั้งอยู่บนเส้นทางการเชื่อมโยงทั้งทางบก ทางทะเลและทางอากาศได้รับผลกระทบอย่างมาก อย่างไรก็ตามด้วยตำแหน่งที่ตั้งที่อยู่บนจุดกลางระหว่างจีนและอินเดีย (Beyond India, Before China) ซึ่งเป็นแหล่งประชากรและแหล่งอารยธรรมสำคัญของโลก ส่งผลให้เกิดปฏิสัมพันธ์ทางการค้า ศาสนาและวัฒนธรรมเชื่อมโยงกันทั้งในระดับพื้นที่และระดับภูมิภาคตั้งแต่สมัยก่อนประวัติศาสตร์จนถึงปัจจุบัน
“สุวรรณภูมิ” ก้าวต่อไปของอาเซียน
ภายใต้บริบทการเชื่อมโยงกันของประเทศต่างๆ ในโลก ทำให้เกิดแรงดึงดูดและศูนย์กลางใหม่ๆ ในการพัฒนาทางเศรษฐกิจ ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีโดยเฉพาะเทคโนโลยีเปลี่ยนโลก (Disruptive Technology) ทำให้ปัจจัยด้านแรงงาน วัตถุดิบหรือระยะทางในการขนส่งไม่ใช่ปัจจัยหลักในการตัดสินใจของ ผู้ประกอบการอีกต่อไป ในขณะเดียวกันความสามารถในการวิเคราะห์ความต้องการของผู้บริโภคจาก Big Data ก็ทำให้การผลิตสินค้าจำเป็นต้องเพิ่มคุณค่าที่มากกว่าความต้องการระดับพื้นฐานทั่วไป
บริบทของการสร้างคุณค่า “สุวรรณภูมิ”
เมืองที่ค้นพบในเชิงนามธรรมสู่การสร้างแรงบันดาลใจ
การนำเทคโนโลยีเชิงพื้นที่และภาพถ่ายดาวเทียมมาช่วยในการตามรอยและเรียนรู้ประวัติศาสตร์ดินแดนสุวรรณภูมิร่วมกัน เพื่อสร้างความรู้สึกในการเป็นภูมิภาค (Regional Policies) และทำให้เกิดแรงบันดาลใจในการร่วมกันพัฒนานวัตกรรมทางวัฒนธรรมเชิงเศรษฐกิจสร้างสรรค์ (Creative Cultural Innovation Economy) เพื่อสร้างคุณค่าเชิงวัฒนธรรมร่วมกันในดินแดนสุวรรณภูมิ (Suvarnabhumi’s Value Creation) ให้เป็นจุดขายจากระดับภูมิภาคสู่ระดับโลก (Local to Global) มีหลายแนวทางที่สามารถพัฒนาได้
แนวทางสร้างความร่วมมือ 5 ชาติสุวรรณภูมิ วัฒนธรรมร่วม
แห่งอาเซียนในศตวรรษที่ 21
อินเดีย ไทย พม่า อินโดนีเซีย และจีน ควรเปิดหารือจัดตั้งโครงการความร่วมมือด้านวัฒนธรรมสุวรรณภูมิ เพื่อเป็นอีก “ทางเสริม” บนโครงการเส้นทางสายไหมใหม่ของจีน การเปิดเจรจาในขั้นเริ่มแรก ถึงความเป็นไปได้ที่จะร่วมมือกันจัดทำ โครงการโครงสร้างระดับภูมิภาค ในความพยายามที่จะเสริมการขยายอิทธิพลของจีน ผ่านทางโครงการเส้นทางสายไหมใหม่ อย่างจริงจัง เรียกแผนการนี้ว่าเป็น "แผนวัฒนธรรม" เสริมโครงการเส้นทางสายไหมใหม่จีน โดยจีนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน เช่น ท่าเรือที่ยังไม่มีมูลค่าทางเศรษฐกิจมากนัก ประเทศ อื่นๆ อาจเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจให้กับท่าเรือนั้น ด้วยการสร้าง "ถนนวัฒนธรรม" หรือ "ทางรถไฟสายวัฒนธรรม"เชื่อมต่อกับท่าเรือ กลยุทธ์อินโดแปซิฟิก ที่เปิดกว้างและมีเสรี รวมถึง โครงสร้างพื้นฐาน จะเป็นสิ่งที่มาเสริมโครงการเส้นทางสายไหมใหม่ของจีน และของเส้นทางสุวรรณภูมิ